น้อยคนนักจะรู้จักประเทศ จอร์เจีย เมื่อเอ่ยถึง จอร์เจีย หลายๆคนมีความสงสัยว่า ประเทศนี้อยู่ที่ไหน มีอะไรน่าเที่ยวน่าสนใจ เมื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับประเทศนี้ก็ไม่ปรากฎรายละเอียดมากมายให้ค้นหา จนกระทั่งได้มีโอกาสมาสัมผัสจีงรู้ว่า จอร์เจีย น่าเที่ยว มีเสน่ห์ สวยงามเหมือนเที่ยวยุโรป ผู้คนเป็นมิตร ค่าครองชีพไม่สูง เป็นอีกจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจและอบอวลด้วยเสน่ห์ของธรรมชาติและอารยธรรม
เริ่มต้นของการเดินทาง..
เราออกเดินทางสู่นครดูไบ โดยสายการบินอิมิเรสต์ เที่ยวบิน EK377 ใช้เวลาเดินทาง 6 ชั่วโมง และแวะเปลี่ยนเครื่องเป็นสายการบิน Fly Dubai เที่ยวบิน EK2200 ใช้เวลาเดินทางต่ออีก 4 ชั่วโมง จึงถึงจุดหมายปลายทาง เวลาของประเทศจอร์เจียช้ากว่าประเทศไทย 3 ชั่วโมง

ความประทับใจแรกเมื่อมาเยือน…
เมื่อเครื่องบินแตะรันเวย์ที่สนามบินทบิลิซี ซึ่งทุกคนต้องทำการตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ ต.ม ที่นี่ต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกคนอย่างอบอุ่นด้วยไวน์คนละ 1 ขวด ซึ่งสร้างความงุนงงและประทับใจแก่ทุกๆคน

สถานที่น่าไปเช็คอินเมื่อไปเที่ยวจอร์เจีย
มื้อแรกที่ ทบิลิซี
การท่องเที่ยวประเทศจอร์เจียให้การต้อนรับเอเย่นซี่ทัวร์จากประเทศไทยด้วยไมตรีจิตร กาล่าดินเนอร์มื้อนี้ มีอาหารพื้นเมืองเลิศรส ไวน์ และน้ำผลไม้ต่างๆ พร้อมดนตรีโฟล์กซอง และการเต้นรำพื้นเมือง ซึ่งสร้างความสนุกสนานและประทับใจแก่ทุกๆคน




วิหารซีโอนี (Siony Cathedral)
โบสถ์หลังใหญ่ของนิกายออร์โธด๊อกที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานถูกสร้างขึ้นที่วิหารแห่งนี้ โดยชื่อของโบสถ์ได้มาจากดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ คือ ภูเขาไซออนในเจรูซาเล็ม ต่อมาถูกผู้บุกรุกทำลายลงและมีการสร้างใหม่หลายครั้งและมีการบูรณะใน ค.ศ 17-19


โบสถ์ตรินิตี้ (Holy Trinity Cathedral of Tbilisi)
วิหารหลักของชาวจอร์เจียนออร์โธด๊อกซ์ในกรุงทบิลิซี สร้างใน ค.ศ 1995-2004 ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของศาสนสถานในนิกายออร์โธด๊อกซ์ตะวันออกทั่วโลก
โบสถ์เมทเทลี (Metekhi Church)
โบสถ์เก่าแก่ในยุค ค.ศ ที่ 13 ตั้งอยู่ในเมืองเก่า เคยเป็นป้อมที่ประทับของพระมหากษัตริย์และได้ใช้เป็นโบสถ์ของพระมหากษัตริย์ด้วยมียอดโดมแหลมขึ้นไป มีการบูรณะครั้งใหญ่ในช่วง ค.ศ 17-18



โรงอาบน้ำแร่กำมะถัน (Sulphur Baths)
สถานที่สำหรับแช่น้ำพุร้อนกำมะถัน ตามตำนานเล่าว่า เหยี่ยวของกษัตริย์วาคตังที่ 1 ได้ตกลงในบริเวณดังกล่าว ทำใ้ห้ค้นพบบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้ขึ้น ปัจจุบันชาวจอร์เจียนยังนิยมมาแช่น้ำร้อนกำมะถันที่โรงอาบน้ำแห่งนี้







โรงอาบน้ำโบราณ


Bridge of Peace สะพานคนเดินที่สวยงาม สร้างข้ามแม่น้ำคูรา เพื่อเขื่อมเขตเมืองเก่าและเมืองใหญ่ วิวบนสะพานนอกจากได้ชมวิวของเมืองอันสวยงามแล้ว ยังได้เห็นโบสถ์ Metekhiและรูปปั้นกษัตริย์ Vakhtang Gorgasali ผู้สร้างเมืองตั้งตระหง่านอย่างสง่างาม


เคเบิ้ลคาร์ชมป้อมปราการนาริกาลา

นั่งกระเช้าชมวิว

อนุสาวรีย์มารดาแห่งจอร์เจีย
อนุสาวรีย์มารดาแห่งจอร์เจีย รูปปั้นขนาดใหญ่ยักษ์ของหญิงถือดาบและถ้วยไวน์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองทบิลิซีและประเทศ โดยดาบมีความหมายว่าใช้สำหรับผู้ที่จะมาเป็นศัตรู ส่วนถ้วยไวน์มีความหมายสำหรับผู้ที่จะมาเป็นเพื่อนพ้อง




ชมโบสถ์สเวติทสโคเวลี Unesco World Heritage ที่ซึ่งชาวจอร์เจียเคารพศรัทธาที่สุดที่เชื่อกันว่าเป็นที่ฝังเส้นผมของพระเยซูก่อนที่จะสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน และ วิหารจวารี โบสถ์ไม้กางเขนอันศักดิ์สิทธิ์ ภายในโบสถ์มีไม้กางเขนขนาดใหญ่โบสถ์นี้ตั้งบนภูเขาที่มีแม่น้ำสองสายมาบรรจบกัน คือ แม่น้ำมิควารี และ แม่น้ำอรักวี


ทะเลสาบ Jhinvali Lake
ทะเลสาบขนาดใหญ่ที่ทำให้เมืองทบิลิซี มีน้ำไว้ดื่มไว้ใช้ สถานที่แห่งนี้เป็นหนึ่งในมรดกโลก Unesco World Heritage ในปี ค.ศ 2007

ป้อมอนานูรี
ป้อมปราสาทตั้งอยู่ริมฝั่งซ้ายของแม่น้ำเอรักวี เป้นที่ประทับของ เอริสตาวิส ผู้ปกครองดินแดนลุ่มแม่น้ำอรักวีและเป็นสมรภูมิแย่งชิงอำนาจกับเจ้าปกครองแคว้นอื่นๆหลายครั้ง


อนุสาวรีย์มิตรภาพจอร์เจีย
อนุสาวรีย์ถูกสร้างขึ้นในปี 1983 เพื่อเฉลิมฉลองสองร้อยปีของสนธิสัญญา Georgievsk และมิตรภาพระหว่างโซเวียตจอร์เจียกับโซเวียตรัสเซีย

โบสถ์เกอร์เกตี้
ถูกสร้างขึ้นในราวศตวรรษที่14 สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งขวาของแม่น้า ชคเฮรี อยู่บนเทือกเขาของคาซเบกี ซึ่งเป็นไฮไลท์ของประเทศจอร์เจีย



เมืองถ้ำอุพลิสซิเค หนึ่งในเมืองถ้ำเก่าแก่ของจอร์เจีย มีการบันทึกเรื่องราวว่า ถ้ำแห่งนี้เจริญถึงขีดสุดเมื่อ 3,000ปีที่แล้วก่อนจะถูกรุกรานและทำลายโดยชาวมองโกลใน ค.ศ ที่ 11 ถ้ำแห่งนี้เป็นหนึ่งของเส้นทางสายไหมที่เชื่อมต่ออาณาจักรไบแซนไพน์กับประเทศอินเดียและประเทศจีน



ชมอุทยานแห่งชาติ Borjomi Kharagaul Park สถานที่เคยถูกใช้สำหรับล่าสัตว์โดยขุนนางท้องถิ่นแต่เมื่อจอร์เจียกลายเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิรัสเซีย ผู้ปกครองเมืองจากรัสเซียได้พบความงามจึงสร้างบ้านพักขึ้นในช่วงฤดูร้อนและจำกัดการตัดไม้และล่าสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาตจึงเป็นการวางรากฐานสำหรับอนาคตของอุทยาน อุทยานได้รับการรับรองและสร้างขึ้นเป็นทางการในปี 1995
นอกจากนี้ในบริเวณเดียวกันเราสามารถขึ้นกระเช้าชมวิวหน้าผาเหนือเมืองบอร์โจมี เพื่อชมทิวทัศน์ธรรมชาติจากมุมสูง




Rabati Fortress
แนวป้อมปราการและปราสาทสุดอลังการ ภายในประกอบด้วยอาคารหลายๆส่วน สร้างขึ้นใน ค.ศ ที่ 13 ล้อมรอบไปด้วยแนวกำแพงหินและเคยใช้เป็นที่ประทับของเจ้าชาย Jakhely ภายหลังใน ค.ศ ที่ 16 ป้อมแห่งนี้ตกอยู่ในความครอบครองของอาณาจักรออโตมันและรัสเซีย จึงทำให้ป้อมถูกละเลยและทรุดโทรมลง จนกระทั่งปี 2012 ทางการจอร์เจียได้บูรณะป้อมแห่งนี้ใหม่อีกครั้ง



ทริปนี้เรามีโอกาสไปสัมผัสความหนาวเย็นบนลานสกีที่ Goderdzi Mountain Resort, Georgia ซี่งเป็นอีกหนึ่งความประทับใจและสนุกสนานในการเดินทางครั้งนี้


อนุสาวรีย์ The Chronicle of Georgia หรือ แท่งหินสีดำแกะสลักขนาดใหญ่ยักษ์บนแท่นหิน ซึ่งแกะเป็นรูปต่างๆบอกเรื่องราวของประเทศจอร์เจียในอดีต สร้างโดย ซุราป สถาปนิกชื่อดัง ซึ่งมีแท่งหิน 18 แท่ง แต่ละแท่งสูง 35 เมตร แต่ละเสาจะแบ่งเล่าเรื่องราวเป็น 3 ส่วน คือ ล่างสุดเกี่ยวกับพระคัมภีร์ ส่วนกลางคือ เรื่องของชนชั้นสูงในจอร์เจีย และส่วนบนเกี่ยวกับเหตุการณ์สำคัญของประเทศ
มาแล้วต้องห้ามพลาด !!

น้ำทับทิมสด

คูซเซล่า ขนมพื้นเมืองจากน้ำผลไม้

ไวน์องุ่น

Khinkali หรือขนมจีบยักษ์แห่งคอเคซัส

ปลาเทร้าอบเกลือ

สลัดมะเขือเทศ
ปิดท้ายการเเดินทาง : จอร์เจียเป็นประเทศที่สวยงามเหมาะแก่การมาพักผ่อน เป็นอีกทางเลือกที่ไม่จำเจ มาแล้วต้องหลงรักแน่นอนค่ะ